Friday, October 9, 2009

สองเรื่องที่แตกต่าง

กระทู้แนะนำจากเวปพันทิบห้องลุมพินีคับ อยากเอามาให้อ่านกันบ้าง


ผมเป็นหมออยู่ รพ.ชุมชนแห่งหนึ่งครับ

มีเรื่องมาแชร์ประสบการณ์มาเล่าให้ฟังครับ
เกิดสดๆร้อน เมื่อวานนี้เอง ณ เวลา 13.00 น.

หลังจากเพิ่งพักเที่ยงได้สักครึ่งชม.
“หมอคะ มีคนไข้ท้องประมาณ 3 เดือน หลังลื่นล้ม มีเลือดออกทางช่องคลอดค่ะ”
พยาบาลสาวมารายงานเคสถึงห้องพักแพทย์

“ครับๆ เดี๋ยวผมตามไป พาคนไข้ไปห้องตรวจภายในเลย” ในใจผมก็ทะแม่งๆแล้ว
มุขลื่นล้มแล้วเลือดออก แต่จริงๆไปทำแท้งเนี่ย
เจอบ่อย แต่ยังไม่อยากปรักปรำ เพราะเห็นว่าเคยมาฝากท้องแล้ว เดี๋ยวลองซักประวัติดีๆดีกว่า

คนไข้รายนี้เป็นหญิงอายุ 23 ปี เคยแท้งมาแล้ว 2 ครั้ง
ยังไม่มีลูก มาฝากท้องที่รพ.แล้ว 2 ครั้ง

อายุครรภ์นับจากประจำเดือนครั้งสุดท้ายประมาณ 3 เดือน ครั้งนี้ แม่พามาโรงพยาบาล

“คุณ..ไปทำแท้งมารึเปล่าครับ” ผมถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ ปะ ป่าวนะค้า” ตอบเสียงสูงเชียว มีพิรุธสุดฤทธิ์
"งั้นผมขอตรวจภายในก่อนครับ ดูว่าแท้งรึยัง"

เริ่มจากใส่เครื่องมือดูปากมดลูก เลือดไหลพลั่กๆเชียว ปากมดลูกเริ่มเปิดแล้ว จากนั้นตรวจโดยใช้นิ้ว

เอ๊ เม็ดอะไรแข็งๆใต้ปากมดลูกหว่า คีบออกมาดู ปรากฏว่าเป็นยาเม็ดสำหรับทำแท้ง เลยดึงออกมาให้คนไข้ดู

“มีอะไรจะแก้ตัวมั้ย “ ผมถามเสียงเข้ม
“หมออย่าบอกแม่หนูนะ แม่หนูคิดว่าลื่นล้ม” เธอบอก
แกมอ้อนวอน

หลังจากเปิดปากยอมรับว่าไปทำแท้ง โดยไปที่คลินิกของหมอสูติคนหนึ่งในตัวเมือง
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าหมอคนนี้แอบรับทำแท้งอยู่ เธอกินยามา 2 วันแล้ว
เมื่อเช้าหมอเหน็บยาให้อีก 1 เม็ด แล้วบอกว่าถ้าตกเลือดให้มาขูดมดลูก รพ.ใกล้บ้าน เฮ่อ..ดูมันแนะนำ เลวจริงๆ มีการผลักภาระให้คนอื่นอีก

“คุณหมดเงินไปเท่าไหร่”
“หมื่นกว่าบาทค่ะ”

“คุณรู้รึปล่าวว่า จริงๆยาสอดเนี่ย เม็ดหนึ่งไม่ถึง 10 บาท" ในใจก็รู้สึกว่าสมควรแล้ว
เธอถึงกับอึ้ง ว่าหมอคนนั้นโก่งราคาซะสูงลิ่ว เฮ่อ เลวจริงๆ (อีกรอบ)

อย่าว่าผมโหดเลยนะครับ มันหงุดหงิดน่ะ
ผมเป็นคนรักเด็กครับ จะsense มากกับคนไข้ที่ทำแท้งมา

จริงๆสภาพจิตใจคนไข้ก็บอบช้ำมาเพียงพอแล้ว โดนหมอด่าซ้ำอีก แต่มันก็เป็นจิตวิทยาอย่างนึง
ทำให้คนไข้รู้สึกผิด และไม่กล้าทำอีก

เทียบกับหมอคนอื่น ผม soft แล้วนะ
หมอบางคนด่าซะเสียผู้เสียคนเลยกับคนไข้ทำแท้งเนี่ย แต่ด่าไปบางคนมันก็ไม่จำหรอกครับ

“อืม เด็กยังอยู่ข้างในนะ แต่ปากมดลูกเปิดแล้ว
ต้องขูดมดลูก เพราะเดี๋ยวจะตกเลือดมาก” ผมบอกหลังจากตรวจภายในเสร็จ ประเมินจากขนาดมดลูกน่าจะประมาณ 14 สัปดาห์แล้ว

ในใจก็นึก เฮ้อ มันเริ่มเป็นตัวแล้วนี่หว่า
หลังจากซักประวัติการกินข้าวกินน้ำครั้งสุดท้าย
เพราะต้องฉีดยาสลบ และบอกแม่ผู้ป่วยว่าต้องขูดมดลูกแล้ว
โอเคให้เริ่มขูดมดลูกได้เลย

จากนั้นก็ลงมือเลยครับ ขูดได้ซักพัก
เฮ้ยอะไรเนี่ย โอ้ พระเจ้า ขาเด็กนี่หว่า
เลยต้องใช้เครื่องมือหนีบออกมาแทน

แต่ก็อะนะ เด็กตัวจะเปื่อยๆ มันก็ไม่ออกมาทีเดียวดิครับ จะออกมาเป็นส่วนๆ ขาดครึ่งตัวบ้าง
แขนบ้าง ขาบ้าง หัวบ้าง
ในใจสั่นระรัวว่า กรูทำอะไรอยู่ฟะเนี่ย
นี่ต้องมากลายเป็นส่วนหนึ่งในการทำลายเด็กหรือนี่

แทบไม่มองเลยครับ น้ำตาเกือบจะคลอเบ้าแต่ก็อายพยาบาล T_T
คิดดูสิครับว่าคนที่จิตใจบอบบางอย่างผม ต้องเห็นเด็กหลุดมาเป็นท่อนๆจะรู้สึกยังไง (T_T“)
สงสารเด็กจับใจครับ
หลังจากนั้นพยาบาลบอกผมว่าเห็นคนไข้บอกว่าสาเหตุมี่ไปทำแท้ง เพราะแค่ทะเลาะกับสามีเลยประชด

โดยที่สามีไม่รู้เรื่องเลย แค่เนี้ยย.. เวรกรรม เฮ่อ กรรมของเด็กจริงๆ
จริงๆผมก็ขูดมดลูกเคสคนไข้แท้งมาก็มากมาย
แต่ส่วนใหญ่จะแท้งตั้งแต่ยังไม่เป็นตัวครับ

ที่เห็นว่าเป็นตัวเด็กก็เป็นเคสที่ 2 แล้ว แต่ยังทำใจไม่ได้T_T
เมื่อคืนหลังจากกลับมานอนด้วยความอ่อนเพลียจากงานกลางวัน

ตอนตี 2 มีพยาบาลโทรมารายงานเคส หลังจากเสร็จแล้ว ไม่รู้อารมณ์ไหน คิดเรื่องที่ทำแท้ง ตาค้างเลยครับ

กว่าจะข่มตาหลับได้ T_T ผมกะไว้ว่า จะหาโอกาสไปทำบุญกรวดน้ำให้เด็กครับ

ผมขอเถอะครับ คนที่คิดจะทำแท้ง อย่าเลยนะครับ
มันผิดกฎหมาย และบาปด้วย บาปนั้นมันจะติดคุณไป

ตลอดชีวิต บางคนก็เสียชีวิตจากการติดเชื้อหรือตกเลือดได้ มันไม่คุ้มกันเลย เด็กไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรเลย สงสารเถอะครับ

จากคุณ : หมอบ้านนอก - [ 24 มิ.ย. 49 14:13:13 A:124.157.245.127 X: TicketID:120022 ]


ลิงค์อยู่นี่ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L4480437/L4480437.html

บางคคห.ก็เขียนดีนะ



ความคิดเห็นที่ 65

เห็นใจคุณหมอค่ะ หมอเล่ามาเห็นภาพหมดเลย ทำไมมันเศร้าอย่างนี้ ลำบากใจสุดๆนะนั่น เฮ้อ สู่สุขตินะหนู ถ้าเป็นไปได้ อยากให้หนูได้เกิดมาลืมตาดูโลกอีกครั้งกับคนที่ดี และต้องการหนูจริงๆ

น่าแปลกวันนี้เรารับรู้เรื่องเศร้า 2 เรื่องแต่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

เรื่องแรก ตามที่คุณหมอเล่ามา และอีกเรืองคือ จากเหตุการณ์ รถนักเรียนประสบอุบัติเหตุ มีเด็กผู้ชาย ม.1 เสียชีวิตเพิ่มอีกคน มันเศร้าตรงคำพูดของพ่อเค้า ตอนเข้าไปลูบตัวลูกแล้วบอกว่า

ถ้าเป็นไปได้ ชาติหน้าขอให้เกิดเป็นพ่อลูกกันอีก ชาตินี้เรามากันได้แค่นี้ ขอให้ไปให้สบาย กลับบ้านพร้อมพ่อนะ อย่าลำบากอีกเลย เจอกันอีกที ขอให้เราสบายแล้ว พ่อจะไม่ให้ลูกลำบากและขัดสนอีกแล้ว ประมาณนี้ละค่ะ ฮือๆ

ความหมายของพ่อคือ พ่อไม่เคยให้ลูกได้อยู่อย่างสบาย จวบจนกระทั่งตาย (พ่อมีอาชีพรับจ้าง ค่าแรง 150/วัน ในข่าวไม่ได้กล่าวถีงแม่) ส่งให้ลูกชายทั้งสองคนเรียนด้วย คนโต ม.1 วันนี้ได้จากไปแล้ว แต่พ่อเค้าไม่มีกระทั่งเงินซื้อโลงให้ลูก เอาของโรงพยาบาล งานศพ ก็ต้องเป็นคนอื่นจัดให้ (นักการเมืองท้องถื่น) 2เรื่องนี้ต่างกันตรงที่

หญิงสาวเสียเงินไปเป็นหมื่น เพื่อกำจัดเด็กที่ไม่รู้เรื่องด้วย คนแล้ว คนเล่า

ขณะที่พ่อ พยายามทุกทางเพื่อจะยื้อชีวิตลูก ให้รอด แม้ว่าจะยากจน แต่ไม่สามารถทำได้ (มั่นใจว่าชาตินี้ทั้งชาติ พ่อเค้าคงคิดถึงลูกคนนี้ตลอดไป)

หญิงสาวคนดังกล่าว เธอลืมง่ายจัง และคงลืมไปแล้วหรือไรนะ ว่าเด็กที่จะเกิด เค้าจะต้องมาเป็นลูกเธอ เค้าก็อยากมีชีวิตอยู่นะ มีสิทธิอะไร ไปทำเค้าอย่างนั้น เมื่อไหร่เธอจะรู้สำนึกนะ เพราะ จากที่หมอเล่ามา คนนี้คาดว่าครั้งที่ 3 แล้ว เฮ้อ ปลง

เรื่องเศร้าของเราในรอบปีนี้เลยนะเนี่ย ต่อมน้ำตาแตกมากๆ
ขอให้น้องไปสู่สุขติทั้งสองคน น้อง ม.1 อย่างน้อยน้องก็โชคดีตรงได้รับความร้กที่บริสุทธิ์ จากพ่อแม่

แต่อีกคนนี่สิ ไม่ แม้แต่จะได้รับโอกาส จากแม่ใจร้ายที่ทำร้ายเค้าด้วยเหตุผลงี่เง่าส่วนตัว (สาธุ ขอให้บาป บุญ มีจริง)

ขอโหวตเลยค่ะ กระทู้นี้ ให้กำลังใจคุณหมอด้วย เข้มแข็งนะคะ ขอให้ลืมเรื่องราวร้ายๆ ได้ในเร็ววันค่ะ

จากคุณ : รักพ่อจัง (Bonsai) - [ 24 มิ.ย. 49 20:59:33 ]


เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ

ความคิดเห็นที่ 98

อาจารย์เคยเล่าให้ฟังนะ มีหมอคนนึง เขาก็รับทำแท้ง(หมอจริงๆที่จบทางการแพทย์น่ะ) รายได้ก็ดีมากๆเรียกว่าร่ำรวยเลย หมอคนนี้เขามีลูกที่เรียนก็เก่งนะ 3 คน ลูกทั้งสามคนเขาก็ส่งไปเรียนที่เมืองนอก ทางพ่อก็ทำมาหากินด้วยการรับทำแท้ง ส่งเงินไปให้ลูก จนลูกเรียนจบกลับมาเมืองไทย เป็นที่ภาคภูมิใจของพ่อและตระกูลอย่างมาก เพราะลูกทั้งหน้าตาดี เก่ง รักพ่อรักแม่ เป็นเด็กดีน่ะว่างั้นเถอะ อยู่ต่อๆมาไม่นาน ลูกๆก็จากไปทีละคนๆ คนแรกประสบอุบัติเหตุทางรถตาย คนที่สองก็ป่วยตาย คนที่สามก็ตายเหมือนกันแต่ตายที่เมืองนอก
สรุปคือชีวิตของหมอคนนี้ไม่เหลืออะไรเลย

อีกกรณีเพื่อนที่เป็นพยาบาลเล่าให้ฟัง เพื่อนบอกว่าเวลาหญิงที่ทำแท้งมาจะรู้ได้เลย บางคนกลางคืนก็จะละเมอโวยาย ว่ามีเด็กเล็กๆมาไต่รอบตัว ให้หมอมาช่วยไล่ด้วย(คนที่ทำแท้งพวกติดเชื้อแล้วต้องนอนโรงพยาบาล ถ้านอนเตียงนี้เมื่อไร จะเจอผีเด็กมาไต่รอบตัว อันนี้คนไข้บอกนะ แต่พวกพยาบาลไม่เคยเจอ) บางคนก็บอกว่ามีเด็กมาดึงขา มาดึงผม

บางครั้งก็สงสารผู้หญิงนะ บางทีไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง เวลาเกิดเรื่องทิ้งเด็ก ทำแท้ง คนที่โดนด่าหนักมักเป็นผู้หญิง ส่วนผู้ชายที่มีส่วนร่วม มักลอยนวลไม่คอยโดนด่า
(อ้อ...แต่ผู้หญิงคนที่คุณหมอเล่าให้ฟัง ไม่น่าสงสารเลยนะคะ)
เป็นกำลังใจให้คุณหมอนะ สู้ สู้

จากคุณ : ผักแป้น - [ 25 มิ.ย. 49 10:22:27 ]


รึ แชร์ประสบการณ์ของตัวเอง

ความคิดเห็นที่ 101

มาให้กำลังใจคุณ จขกท ค่ะ อ่านแล้วนึกถึงตอนตัวเองเรียนปีสุดท้ายที่ร.พ.มหาราช(โคราช) แผนกสูตินรีเวช เคสเยอะมากกกกกก
ยิ่งในช่วงที่เราขึ้นวอร์ดช่วงนั้น เค้าเรียก post valentine effect T_T บ้ามาก..... เจออย่างน้อยสองเคสต่อการขึ้นเวรหนึ่งครั้ง แล้วเราอยู่เวรวันเว้นสองวัน >>>>> กว่าจะลงจากแผนกนี้ ......รู้สึกได้เลยว่ามือนี่เต็มไปด้วยเลือด ....... วิธีการของพวกนี้คือ ไปหาหมอเถื่อน(ไม่เถื่อนมั่ง) ก็จะมีวิธี ทั้งเหน็บยา ทั้งฉีดน้ำเกลือ สาระพัด ซึ่งส่วนมากไม่ค่อยทำให้แท้งได้สมบรูณ์ค่ะ พวกนี้เค้าก็รู้ แต่ว่าเค้าไปทำเพื่อว่าพอเกิดการแท้ง ตกเลือดแล้ว มาที่ รพ.ด้วยภาวะตกเลือด จะเป็นเหตุผลบังคับให้แพทย์ทำให้แท้งนั้นให้จบสิ้น โดยการขูดมดลูก เพราะถ้ามาให้แพทย์ทำตั้งแต่แรก >>> แพทย์จะไม่ทำให้แน่นอน ค่ะ .....จึงให้วิธีนี้ (บีบคอกันชัดๆ เลย)

ค่ะ...ช่วงประมาณตี1ขึ้นไปนี่แหละเป็นเวลาเหมาะสมเลย T_T จะบ้าตาย >>>>> แล้วก็มาด้วยสาเหตุคล้ายๆ กัน +++ ลื่นล้ม!!!!!++++ บร้า ๆๆๆ คิดว่าหมอ กะ พยาบาลงี่เง่ามากนักรึไง เจออย่างที่คุณ จขกท บอกก็บ่อย ยาเหน็บคาอยู่จะๆ ตา เปิดประวัติดู เชื่อมั้ยคะ ว่า ครึ่งต่อครึ่งที่มาเป็นครั้งที่สอง หรือสามแล้ว อายุก็ราว17-20กว่าๆ ยังรุ่นๆ ทั้งนั้นเลย.......มีเคสนึง 20นิดๆ เอง ประวัติทำมาครั้งที่สามแล้วแฟนพามาเลย นั่งรออยู่หน้าห้องที่เราขูดมดลูก ทำไป(ขูดไป)ถามไป ถึงได้รู้ว่าแฟนพาไปทำแท้ง สาเหตุคือไม่พร้อมจะรับผิดชอบ อ๊ากกกกกก ตอนนั้ที่ทำปรี๊ดมาก +++ไม่พร้อมจะรับผิดชอบ!!! +++ ครั้งที่สามแล้วนะ(โว้ย) ทำไมไม่รู้จักป้องกัน ?แล้วก็ยังคบกันอยู่นี่นะ รักกันจริงมั้ยเนี่ย ทำเสร็จ เราออกไปวีนกับแฟนที่นั่งรออยู่หน้าห้อง(โหดมั้ย แต่มันแค้นนี่ ) +++ เพราะเคสนี้อายุครรภ์มากด้วย เลยตกเลือดมาก >>>เด็กแบบออกมาเป็นตัวเลยค่ะ (ไม่ใช่ก้อนเลือด)T_T จำได้ว่าทำเสร็จนอนไม่หลับเลย ก็นั่งเฝ้าอยู่ที่วอร์ดไปเลย ถึงเช้า

เรื่องขูดมดลูกสด>>>บอกตรงๆ นะคะ ว่า เคยมีการบอกต่อๆ กันมาว่าถ้ามีประวัติทำมาหลายๆครั้ง ไม่ควรฉีดยาชาให้ >>>เฮ้ออออ แต่เราไม่เคยทำนะ เพราะว่ายังไงก็คิดว่าที่ผู้หญิงต้องทำแท้งมาน่ะ สาเหตุไม่ได้มาจากเค้าฝ่ายเดียวหรอก แต่มันมีอีกคน(ตัวผู้) ที่ต้องรับผิดชอบด้วย ไม่อยากโทษฝ่ายหญิงอย่างเดียว ส่วนมากตอนทำเราจะเทศนา(แหะๆๆ อยากบอกว่าหมออายุยยังไม่20แต่พูดสอนเหมือนป้าแก่เลย)ผู้หญิงพูดเรื่องการ คุมกำเนิด เฮ้อ ก็สอนไป ไม่รู้เข้าหูบ้างมั้ย แล้วพอเสร็จก็ออกมาเฉ่งผู้ชาย (ไม่รู้ยังไง ชอบมากันเป็นคู่>>รึจะมาให้ชัวร์ว่าแท้ง แน่???) ต่อ .............. สรุปว่าส่วนตัวเราเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการให้ความรู้กับเด็กในเรื่องการคุม กำเนิด หรือ การหาอุปกรณ์ที่เอื้อต่อการหามาคุมกำเนิด เพราะการจหยุดยั้งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์อาจจะไม่สามารถทำได้ ในปัจจุบันนี้ สิ่งที่น่าทำคือทำยังไงไม่ให้เกิดผลตามมาเช่นโรคติดต่อ หรือ การตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ **** ปล.ไม่ได้เห็นด้วยกับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควรนะคะ**** +_+ อย่ามาโพสต์ด่าเราล่ะ แชร์ความคิดค่ะ
แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 49 11:22:28

จากคุณ : รักครั้งต่อไปคือตัวชั้นเอง - [ 25 มิ.ย. 49 11:00:16 ]

No comments:

Post a Comment