Wednesday, September 30, 2009

EU Green Days



น่าสนนะครับ

มีปาตี้ด้วย lol

Tuesday, September 29, 2009

สัพเพ ธัมมานาลัง อะภินิเวสายะ : ใดใดในโลกอันบุคคลไม่ควรยึดติดถือมั่น



ถือ (ก็)
หนัก วาง (ก็) เบา


เคยมีคนไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้า ถึงคำสอนพระองค์ให้เหลือเพียงสั้นๆ
ทว่า ครอบคลุมใจความทั้งหมดแห่งพระพุทธศาสนา

พระองค์ตรัสว่า หากจะให้สรุปเช่นนั้น ก็ขอสรุปเช่นนั้นก็ขอสรุปว่า
ใจความแห่งคำสอนของพระองค์ขึ้นอยู่กับประโยคที่ว่า

สัพเพ ธัมมานาลัง อะภินิเวสายะ
ใดใดในโลกอันบุคคลไม่ควรยึดติดถือมั่น

ทำไมจึงไม่ควรยึดติดถือมั่น

เพราะที่ใดมีความถือมั่น ที่นั่นก็มีความทุกข์
ความทุกข์ขยายตัวตามระดับความเข้มข้นของความยึดติด
ยึดมาก ติดมาก จึงทุกข์น้อย ไม่ยึด ไม่ติด จึงไม่ทุกข์
ความไม่ยึดติดถือมั่น กล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า ความปล่อยวาง
ทำไมจึงต้องปล่อยวาง เพราะทุกอย่าง มีความว่างมาแต่เดิม

คนที่หลงกอด ความว่างโดยคิดว่าเป็น ความมีทำไมจะไม่ทุกข์ ?

พระบวชใหม่รูปหนึ่ง เดินบิณฑบาตผ่านชุมชนแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้คนจอแจ ขณะเดินสำรวมก้มหน้าแต่พอประมาณ เพื่อเดินผ่านชุมชนไปอย่างช้าๆ นั้นเอง จู่ๆ ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งใส่สูท

ผูกเนคไท สวมแว่นตาดำเดินเข้ามาหาท่าน พร้อมทั้งชี้หน้าด่าท่านอย่างสาดเสียเทเสีย

พระรูปตกตะลึง รีบเดินหนี

แต่แม้ท่านจะเดินหนีชายคนนั้นพ้นแล้ว แต่เสียงด่าของเขายังคงก้อง อยู่ในโสตประสาทของท่านอย่างชัดถ้อยชัดคำ

เมื่อกลับถึงวัด พลันที่คิดถึงเหตุการณ์ที่ตนถูกชี้หน้าด่ากลางฝูงชน พระหนุ่มก็รู้สึกโกรธจนหน้าแดงก่ำ

ยิ่งคิดต่อไปว่าชายคนนั้นมาชี้หน้าด่าตน ซึ่งเป็นพระและตนเองก็จำได้ว่า

ตั้งแต่บวชเข้ามาในพระธรรมวินัย ก็ยังไม่เคยทำอะไรผิด

คิดมาถึงขั้นว่า ตนไม่ผิด แต่ทำไมตนต้องถูกด่า ยิ่งเจ็บ ยิ่งแค้น

วันที่ท่านถูกด่ากลางชุมชนนั้นเป็นวันศุกร์ แต่ตกถึงเช้าวันจันทร์ท่านก็ยังไม่หายโกรธ

เช้าวันจันทร์นั้น พระบวชใหม่ประคองบาตร เดินผ่านชุมชนนั้นเหมือนเดิม

ท่านพยายามสอดส่ายสายตามองหาชายคนเดิม ตั้งใจว่าวันนี้จะต้องถามให้รู้เรื่อง

ว่าเหตุจึงมาชี้หน้าด่าตนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ยิ่งพยายามค้นหา กลับยิ่งไม่พอ

ท่านจึงเดินสำรวจรับอาหารบิณฑบาตต่อไป จนได้อาหารเต็มบาตรแล้วจึงเดินกลับวัด

ระหว่างทางกลับวัด โดยไม่คาดฝัน พระหนุ่มทอดสายตาไปพบกับชายคนหนึ่งสวมสูท ผูกเทคไท

ใส่แว่นตาดำ ท่านอุทานในใจว่า อ๋อ เจ้าคนนี้เองที่ด่าฉันเมื่อวันศุกร์

ภาพที่เห็นก็คือ ชายแต่งตัวดีคนนั้น นอนหลับหมดสติอยู่ข้างศาลเจ้าแห่งหนึ่ง

ข้างๆ ตัวเขามีขวดเหล้าล้มกลิ้งอยู่ พอท่านพยายามเดินเข้าไปมองใกล้ๆ

เขาจึงเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พอเห็นท่านเท่านั้นชายคนนั้นก็ร้องขึ้นมาว่า

ขอเดชะ พระอาญาไม่พ้นกล้าฯ บัดนี้ พระองค์ทรงกลับมาครองอยุธยาอีกครั้งหนึ่งแล้วกระนั้นหรือ...

ว่าแล้วก็ลุกขึ้นกำเฉิบๆ พลันที่ท่านประเมินว่าชายแต่งตัวดี คนที่ชี้หน้าด่าท่านเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

เป็นคนบ้าที่มาในร่างของคนแต่งตัวดีเท่านั้นเอง

ความโกรธที่ก่อตัวเป็นเมฆดำทะมึนอยู่ในใจของท่านมานานถึงสามวัน

ก็พลันอันตรธานไปอย่างง่ายดายชนิดไร้ร่องรอย

ทำไม

เราจึงปล่อยวางต่อคนบ้าได้ง่ายดายเหลือเกิน
?
แต่กับคนปกติ

ทำไม เราจึงมีความรู้สึกว่าต้องเอาเรื่องราวให้ถึงที่สุด ?


ขอขอบคุณบทความดีๆจาก: คุณ joyic17


http://joyic17.multiply.com/

Wednesday, September 16, 2009

8 วิธีดูแลความงามด้วยดีเกลือ

Tips & Treat: 8 วิธีดูแลความงามด้วยดีเกลือ

ผู้บันทึก: Chaninu on วันพุธ 16 กันยายน 2009 - 9:34


8 วิธีดูแลความงามด้วยดีเกลือ



พื่อนๆ อาจจะไม่รู้ว่าดีเกลือฝรั่ง หรือ Epsom Salt (หาซื้อได้ตามร้านขายยาไทยจีน) นอกจากจะนำมาใช้เป็นยาถ่ายแล้ว ยังนำมาใช้ประโยชน์ในการการดูแลความงามได้มากมาย ดังนี้

1.
แช่น้ำอุ่นให้สบาย โดยผสมดีเกลือลงในน้ำอุ่น 2 ถ้วยตวง
2.
แช่เท้า เพื่อขจัดกลิ่นและทำให้ผิวหยาบๆ นุ่มลง ผสมดีเกลือ 1/2 ถ้วยตวงลงในอ่างน้ำอุ่น จากนั้น ก็แช่ให้สบาย เสร็จแล้วก็ล้างน้ำแล้วเช็ดให้แห้ง
3.
ทำความสะอาดผิวหน้า ผสมดีเกลือครึ่งช้อนชาเข้ากับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าตามปกติของคุณ ใช้นวดลงบนผิวหน้าให้ทั่ว แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
4.
พอกหน้า ถ้า คุณมีผิวธรรมดาถึงผิวมัน ก็ผสมบรั่นดี 1 ช้อนโต๊ะ ไข่ไก่ 1 ฟอง นมผงแบบไร้ไขมัน 1/4 ถ้วยตวง น้ำมะนาว 1 ลูก และดีเกลือ 1/2 ช้อนชาเข้าด้วยกัน แล้วทาลงบนผิวที่เปียกหมาดๆ แต่ถ้าคุณมีผิวแห้ง ก็ผสมแครอตบดละเอียด 1/4 ถ้วย มายองเนส 1 1/2 ช้อนชา และดีเกลือ 1/2 ช้อนชาเข้าด้วยกัน
5.
ขัดผิวกาย นวดดีเกลือหนึ่งกำมือลงบนผิวเปียกๆ โดยเริ่มจากเท้าขึ้นมา หลังจากนั้นก็อาบน้ำตามปกติ
6.
ขจัดน้ำมันส่วนเกิน ถ้าเส้นผมของคุณเป็นมันเยิ้ม ก็เติมดีเกลือ 9 ช้อนโต๊ะลงในแชมพูสำหรับผมมัน 1/2 ถ้วย ทาส่วนผสมนั้นลงบนเส้นผมในขณะแห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น เทน้ำส้มสายชูที่ทำจากแอ๊ปเปิ้ลลงบนเส้นผมให้ทั่ว ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก
7.
ล้างสเปรย์ฉีดผม ผสมน้ำ 1 แกลลอน น้ำมะนาว 1 ถ้วยตวง และดีเกลือ 1 ถ้วยตวงเข้าด้วยกัน ปิดฝาทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง จากนั้นนำมาเทลงบนเส้นผมในขณะแห้ง ปล่อยทิ้งไว้ 20 นาที แล้วสระผมตามปกติ
8.
เพิ่มความพองให้เส้นผม ผสมคอนดิชันเนอร์ชนิดล้ำลึกเข้ากับดีเกลือในอัตราส่วนเท่าๆ กัน นำไปอุ่นให้ร้อน แล้วนำมาทาลงบนเส้นผม ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก

ที่มา นิตยสาร

แหล่งที่มา : forwardmail

Thursday, September 10, 2009

7 อย่า พ่อสอนลูกหลังแต่งงาน

คอลัมน์สบาย ๆ สไตล์ไมตรี
7 อย่า และ ไม่รับคืน
นสพ. เดลินิวส์ วันอาทิตย์ ที่ 23 สิงหาคม 2552 เวลา 0:00 น





เมื่อต้นเดือน ผมได้ไปในงานมงคลสมรสระหว่าง

น.ส.วรรณพร อุดมชาติ กับ นายสหทัช ถาวรนาน
ที่สโมสรทหารบก

ในงานมีแขกผู้ใหญ่ขึ้นไปกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาวตามพิธีการแต่งงานที่ถือปฏิบัติกันมานาน

มีพ่อของเจ้าสาวคือ
พลตรีสิทธิพร อุดมชาติ ขึ้นไปกล่าวขอบคุณแขกและอวยพรคู่บ่าวสาวด้วย

พ่อของเจ้าสาว ไม่ได้อวยพรแบบธรรมดาทั่วไป แต่ได้ขึ้นไปขับเสภา
บนเวทีอย่างไพเราะ และ จับใจ ชนิดว่า แขกผู้มาร่วมงานต้องหยุดกินอาหารอย่างลืมตัวเพื่อฟังเสภาอย่างเดียว

การขับเสภาของพ่อเจ้าสาวนั้น
เป็นการอวยพรแบบสอนแนะนำลูกสาวในการครองใจสามีให้อยู่หมัดพร้อมกับฝากฝังลูกเขยไปในตัวด้วย และต่อไปนี้คือบทเสภาที่ว่า

อันบ้านเรือนใหญ่โต รโหฐาน

มีเสาทาน หลายต้น พอทนไหว

เกิดเป็นคน อยู่เดียว ก็เปลี่ยวใจ

ต้องแต่งงาน กันไว้ อาศัยกัน

ธรรมชาติ ของชีวิต พ่อคิดแล้ว

ว่าลูกแก้ว คงต้องพราก จากอกฉัน


ได้ออกเรือน มีคู่ครอง ฉลองวัน

มีงานหมั้น วิวาห์ตาม ประเพณี

เป็นเมียเขา พ่อขอสั่ง ไว้เจ็ดอย่า

หนึ่งเป็นกงสุล ออกวีซ่า เขาจะหนี

กำหนดเวลา ไปและกลับ ให้สามี

มันไม่ดี อย่าไปทำ จะช้ำใจ

อย่าที่สอง คิดเป็นนัก โบราณคดี

ผัวเรานี้ แอบซ่อนเงิน ไว้ที่ไหน

เที่ยวรื้อค้น ดูโน่นนี่ จะบรรลัย

ลามปามไป แฟ้มงานผัว ตัวจะตรม

อย่าที่สาม อย่าเป็นกรม สรรพากร


เงินทุกบาท มีขั้นตอน น่าขื่นขม

คอยจัดแจง เรื่องการเงิน แถมอบรม

เมียคนไทย มักนิยม คิดว่างาม

อย่าที่สี่ คิดเป็นผู้ พิพากษา

ตัดสินโทษ ลงอาญา โดยไม่ถาม

ชีวิตคู่ ยากตัดสิน อย่าวู่วาม

คิดก่อนทำ สองประสาน บ้านมั่นคง

อย่าที่ห้า ยื่นคำขาด กับสามี

ทำแบบนี้ รังแต่จะ เป็นผุยผง

ความรุนแรง เหตุบานปลาย จะเพิ่มวง

นวลอนงค์ ลูกของพ่อ อย่าพึงทำ

อย่าที่หก คิดว่าเป็น ดาราดัง

เอาใจยาก ไม่ค่อยฟัง ช่างน่าขำ

มีเรื่องมาก ให้ผัวทุกข์ ควรจดจำ

ชีวิตคู่ ลูกอย่าทำ เป็นดารา

อย่าสุดท้าย คิดเป็นหญิง เพียงคนเดียว

ตลอดเสี้ยว ชีว ิตของ คุณพี่ขา

ต้องมีน้อง คนเดียว นะพี่ยา

รักเท่านั้น มีคุณค่า มามัดใจ

หันมาบอก ลูกเขย ว่าพ่อขอ

ถ้าถามพ่อ ได้ลูกเขย ถูกใจไหม

วันมาขอ พ่อแม่มา พ่อถูกใจ

ยกลูกให้ เอ็งเอาไป ไม่รับคืน

พร้อมกับฝาก ลูกสาว ให้ช่วยสอน

ยามเธองอน ช่วยฝึกหัด ค่อยขัดขืน

พาครอบครัว ถาวรนาน ให้ยั่งยืน

ความชื่นมื่น ผูกสมัคร รักนิรันดร์..


ที่ผมอุตส่าห์ขอต้นฉบับจากพ่อเจ้าสาวมาลงพิมพ์ตรงนี้ก็เพื่อให้ผู้หญิงที่เพิ่งแต่งงานได้อ่าน หรือที่แต่งงานไปนานแล้วก็ควรอ่าน
เพราะถ้าเมียทำได้ตามบทเสภาที่ว่านี้ รับรองว่า ถูกใจผู้เป็นสามีทุกคน จะทำให้ครองคู่กันยาวนาน

ผมเขียนคอลัมน์อาทิตย์นี้สบาย
เพราะแทบไม่ได้เขียนอะไรเลย.

ไมตรี ลิมปิชาติ

ข้อความ forward จาก E-mail

Wednesday, September 9, 2009

Currency and Exchange Services











Thai Currency

The Thai unit of currency is the baht which is worth a little less than 4 US cents. One US dollar = approximately 35 baht.(09/09/2009)

The baht is divided into 100 satang. "Copper" coins are valued at 25 and 50 satang. "Silver" coins are in denominations of 1' 2 and 5 baht. A 10 baht coin is composed of both "silver" and "copper". Banknotes are valued at 10 baht (brown), 20 baht (green), 50 baht (blue), 100 baht (red), 500 baht (purple) and 1,000 baht (khaki).


Exchange Control


1. Foreign tourists may freely bring in foreign banknotes or other types of foreign exchange. Upon leaving Thailand, a foreign

tourist may freely take out foreign means of payments which he brought in with him, with the exception that foreign notes or coins are limited to a maximum equivalent of US$ 10,000 or the amount declared in writing to Customs upon arrival. Failure to do so may lead to arrest, confiscation of the excess amount involved and/or prosecution.

2. For travellers leaving Thailand, the maximum amount permitted to take out without prior authorization is 50,000 baht per person

3. Foreign visitors may bring in personal effects and other goods which are not prohibited by current customs regulation. Other than personal effects, departing visitors are also allowed to take out merchandise bought from duty free shops, precious stones, gold and platinum ornaments.

4. Foreign visitors are welcome to open a foreign currency account with any commercial bank in Thailand. As a special gesture to nonresidents, no restrictions are imposed on the maintenance of and withdrawal from the account, as long as the funds originate from abroad.

For additional information concerning foreign exchange regulations, please contact any authorized banks.

site :http://www.bkkpages.com/finance/currency-exchange
http://th.wikipedia.org/